การออกแบบอาคารที่มีลักษณะเป็นโรงงานอุตสาหกรรมและคลังสินค้า โดยปกติแล้ว นอกจาก dead load live load และ roof live load ที่กระทำกับอาคารแล้ว ก็จะต้องพิจารณาแรงกระทำทางด้านข้างทั้งแรงลมและแรงแผ่นดินไหวร่วมด้วย
เนื่องจากขนาดความกว้างของ bay spacing นั้น ค่อนข้างที่จะมากทำให้แรงลมที่ถ่ายเข้าโครงสร้างหลักมากตามไปด้วย ส่วนแรงแผ่นดินไหวก็จะขึ้นอยู่กับ dead load ของอาคารเป็นหลัก หากน้ำหนักของอาคารยิ่งมาก ก็จะทำให้แรงเฉือนที่ฐานของอาคารนั้นมากไปด้วย ซึ่งก็คือ base shear
นอกจากน้ำหนักของตัวอาคารแล้ว ปัจจัยที่มีผลกับ base shear ก็คือ ตำแหน่งที่ตั้งของอาคาร ลักษณะของดินในพื้นที่นั้นๆ และระบบของโครงสร้างที่เลือกใช้ เช่น moment frame ที่มีความเหนียวปกติ ก็จะมีค่าประกอบปรับผลตอบสนอง (R) ค่าหนึ่ง หากเปลี่ยนระบบเป็นแบบ moment frame ที่มีความเหนียวพิเศษ ก็จะให้ค่าที่เยอะขึ้น โดยค่าที่เยอะนี้ ก็จะลด base shear ที่เกิดขึ้นได้ แต่…ก็จะมีค่าใช้จ่ายในการทำรายละเอียดจุดต่อที่มากขึ้นตามไปด้วย
เมื่อคำนวณ base shear มาได้แล้ว ก็จะได้เป็นค่า base shear ที่กระทำกับทั้งอาคาร ดังนั้นหากต้องการทราบว่า แรงที่กระทำต่อโครงสร้างหลักมีค่าเท่าไหร่ ก็ให้นำค่า base shear มาหารด้วยจำนวน bay ของโครงสร้างหลัก ก็จะได้แรงที่อยู่ในหน่วย kg ที่กระทำกับโครงสร้างหลัก ซึ่งก็จะสามารถนำไปเปรียบเทียบกับแรงลมที่เกิดขึ้นได้แล้ว